เรียนอยู่ กู้ไม่ได้ ไม่มีรายได้ จะเริ่มต้นในอสังหาริมทรัพย์อย่างไร?

         การเริ่มต้นในอสังหาส่วนใหญ่จะเป็นการกู้เงินเพื่อที่จะใช้ซื้ออสังหาชิ้นใหญ่ๆ  ดังนั้น ถ้าคุณไม่สามารถที่จะกู้เงินธนาคารได้ มันจะทำให้คุณเริ่มอสังหาได้ยาก หมายถึง  การซื้อเพื่อถือครอง  การที่คุณกู้ธนาคารจะต้องเริ่มต้นจากมี statement  ,  สลิปเงินเดือนที่มั่นคง  พอที่จะกู้ธนาคารได้ซึ่งจริงๆไม่ได้เกี่ยวกับอสังหาแต่เกี่ยวกับการกู้เงินธนาคาร  แล้วคุณจะกู้ธนาคารยังไงให้ได้เร็วที่สุด  เมื่อไหร่ที่คุณสามารถกู้ธนาคารได้ก็หมายความว่าคุณจะเริ่มลงทุนเป็นของอสังหาได้แล้ว  ซึ่งโดยส่วนใหญ่คุณก็ควรที่จะต้องมีรายได้  , มีงานประจำทำหรือมีที่มาของรายได้ธุรกิจอะไรก็ตาม  แต่ต้องบอกก่อนว่าบางครั้งเด็กอายุน้อยๆอายุ 18-19 ปี ธนาคารก็จะไม่ได้ปล่อยกู้เพราะว่าคุณไม่มีแหล่งที่มาของรายได้หรือบางคนอาจจะเรียนไม่จบมันก็ไม่สามารถกู้ได้

         ดังนั้น แนะนำว่าสำหรับคนที่อยากจะเริ่มลงทุนคุณก็ควรที่จะต้องมีงานประจำทำก่อนหรือว่าที่มารายได้ที่มั่นคงถึงจะเริ่มกู้เงินได้ เพราะถ้าคุณกู้เงินได้คุณก็จะเริ่มเป็นเจ้าของอสังหาได้  แต่นอกเหนือจากนั้น คือหลายคนเข้าใจผิดว่าต้องซื้ออสังหาได้ก่อนถึงจะเริ่มลงทุนได้แต่ความคิดนี้เป็นความคิดที่กลับกัน  จึงอยากให้ทุกคนเริ่มใช้ความคิดก่อนว่าวันนี้คุณไม่มีเงินและคุณอาจจะกู้ไม่ได้ก็ตามหรืออาจจะอายุน้อยก็ตามคุณควรที่จะต้องมีความรู้ก่อน เพราะความรู้ในอสังหาเป็นความรู้ที่ขายได้สร้างเงินสร้างรายได้ได้   บางคนstatementไม่ดี  กู้ไม่ได้ หรือว่าอายุยังไม่ถึง แต่เขาก็สามารถมีรายได้จากอสังหาได้ อาจจะอยู่ในรูปแบบของนายหน้า  ,  อาจจะอยู่ในรูปแบบของการหาคนเช่าให้กับผู้อื่นเก็งค่าคอมมิชชั่น 

ยกตัวอย่างเช่น  ถ้าคุณเป็นคนนึงที่รู้ว่าอสังหาชิ้นไหนดี  ชิ้นไหนไม่ดีและคุณก็มีเวลาการทำการบ้านลงสนามมากเพียงพอจนวันหนึ่งคุณได้ค้นหามากพอจนคุณเจออสังหาชิ้นนึงที่ดี  คุณก็สามารถนำเสนออสังหาชิ้นนี้ให้กับนายทุนหรือคนที่คุณรู้จักอาจจะเป็นญาติคุณหรือคนใกล้ตัวคุณ ถ้าคุณมีทรัพย์ที่ดีจริงๆใครๆก็สนใจที่จะซื้อ เศรษฐีส่วนใหญ่ไม่ได้มีเวลามากพอที่จะทำการบ้านหรือลงสนามดังนั้นหากคุณมีความรู้มากพอบวกกับการลงสนามทำการบ้าน และไปหาทรัพย์ที่ดีจนเจอมันก็สามารถที่จะสร้างเงินให้คุณได้เช่นกัน อย่างเช่นค่าคอมฯประมาณ 3 % ถ้าค้นหาทรัพย์มูลค่าประมาณสัก 10 ล้าน 3% รายได้ก็ประมาณ 300,000 บาท แต่บางคนที่คิดว่าการขายอสังหาอริยทรัพย์มันอาจจะดูยาก  คิดว่าจะไปหาใครมาขายทำเรื่องอย่างไรถ้ายากไปสำหรับคุณ   แนะนำอีกอย่างแบบนึง คือ การหาค่าคอมมิชชั่นจากการเข้าผ่านค่าเช่าซึ่งตลาดเช่าต้องบอกว่าทำได้ง่ายกว่าค่อนข้างเยอะและนายหน้าส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยอยากจะทำเท่าไร เพราะว่านายหน้าที่เก่งๆ  เขาจะทำเคสขายได้เงินเยอะกว่าเช่น  การขายบ้าน 10 ล้านก็จะได้เงินราคา 300,000 บาท  ซึ่งเดือนนึงอาจจะขายได้  3-4 หลัง  บางเดือนก็สามารถทำเงินได้หลักล้านแล้ว  การปล่อยเช่าการหาลูกค้ามันจะได้แค่ 1 เดือนต่อ 1 ปี  อย่างเช่น สมมุติว่าค่าเช่าเดือนละ 10,000 บาท  สัญญา 1 ปีนายหน้าจะได้ 10,000 บาท  แต่ว่าเขาต้องไปเปิดห้องไปทำสัญญา , contract   ซึ่งเยอะพอๆกับการทำการขาย  แต่ว่าการขายจะได้เงินที่เยอะกว่า ดังนั้น นายหน้าส่วนนึงก็ไม่ค่อยเลือกที่จะทำเคสการเช่าถึงแม้ว่ามันจะได้เงินได้ง่ายกว่า แต่ว่าเขาอยากจะได้เงินที่เยอะมากกว่า  ต้นทุนของนายหน้าทุกคนเก่งไม่เก่งอยู่ที่เวลา ถ้าคุณใช้เวลาในการเปิดห้องเช่าเยอะ แปลว่าคุณก็จะเสียเวลาในการขายด้วย ซึ่งมันก็เป็นต้นทุนที่เขาเสียโอกาสไป ดังนั้น การหาคนเช่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ยากและทุกคนก็ยินดีที่จะให้คุณหาให้ ลองสมมติว่าเราเป็นเจ้าของห้องซึ่งบางครั้งเจ้าของห้องไม่อยากที่จะได้นายหน้าสักเท่าไร เพราะว่าค่านายหน้ามันแพงถึง 3%  ทำให้เขาต้องไปตัดกำไรของเขาไปจากการขายห้องหรือการขายบ้าน 

       ต่อให้คุณกู้เงินไม่ได้คุณก็สามารถที่จะทำเงินจากอสังหาได้ขอแค่เพียงคุณมีความรู้และก็ช่องทางในการทำตลาดหาผู้เช่า , หาผู้ซื้อ , ผู้ขาย  ก็จะเป็นในรูปแบบของนายหน้า  แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ ว่าคุณก็ต้องมีความรู้ก่อนคุณต้องเข้าใจในอสังหาก่อนเรียนรู้มันให้มากพอในระดับหนึ่ง ซึ่งจริงๆความรู้เรื่องอสังหาไม่ได้ยากเลย  มันสามารถสร้างเงินสร้างรายได้ให้กับคุณได้ตรงนี้จะแนะนำในส่วนของคนที่อายุน้อยยังไม่สามารถกู้ได้ก็แนะนำให้เป็นการหาลูกค้าให้เขา  ก็จะได้ค่านายหน้าการทำ service ต่างๆ ซึ่งได้เงินเยอะและไม่จำเป็นต้องมีห้องเป็นของตัวเองด้วยการที่ไม่มีห้องเป็นของตัวเองคุณสามารถหมุนรอบได้ง่ายขึ้น  เช่น  ถ้าคุณต้องการค่าเช่าประมาณ 5 % ต่อปี  อาจจะเติบโตต่อปีอีกประมาณ 5 % ด้วย  การเติบโตค่าเช่าบวกเปอร์เซ็นต์  กลายเป็น 10 % ต่อปี ซึ่งควรจะใช้เวลา 1 ปีในการทำรอบได้ 1 รอบ ถ้า 1 ปีคุณได้ 10% แต่นายหน้าคุณต้องอย่าลืมว่าคุณได้ 3% แต่คุณสามารถขายแบบนี้ได้กี่รอบก็ได้ ใน 1 ปีถ้าคุณขายได้ 10 ครั้งคุณก็ได้ 30% จากราคาของทรัพย์สิน ซึ่งมันก็จะทำรอบได้เร็วกว่าเยอะ นี่ก็คือเป็นเรื่องของการทำรอบและที่สำคัญกว่านั้นก็คือว่า การเป็นนายหน้า  ไม่จำเป็นต้องมีค่าทรานซิชั่นฟรี  เช่น  ค่าโอน , ค่าภาษี  และค่าอะไรต่างๆ 

       สุดท้ายแล้วถ้าคุณถือทรัพย์สินได้ไม่นานพอถือได้แค่ 1 หรือ 2 ปีคุณจะเจอค่าโอนค่าภาษีกำไรคุณก็อาจะหมด  ที่มีประมาณ 10 %  ก็อาจจะไม่เหลือหรืออาจจะเหลือน้อยมาก  แต่นายหน้าต้นทุนตรงนี้ไม่มีถ้าคุณเก่งจริงๆอาชีพนายหน้าจะทำเงินได้มากกว่านักลงทุน